ปรัชญาของหลักสูตร
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มุ่งผลิตมหาบัณฑิตที่มีความรู้และทักษะในการประกอบวิชาชีพในหน่วยงานภาครัฐทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น มีจิตสาธารณะ อุทิศตนเพื่อสังคม สามารถประยุกต์ใช้แนวคิดและทฤษฎีในการบริหารงานและให้บริการภาครัฐ ภาคเอกชน ในด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล บนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาลและการพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืน
ความสำคัญของหลักสูตร
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เริ่มดำเนินการจัดการเรียนสอนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ผ่านการปรับปรุงหลักสูตร 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2555 ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2560 เปิดรับนักศึกษามาแล้ว จำนวน 14 รุ่น สามารถผลิตมหาบัณฑิตเข้าสู่ระบบการทำงานซึ่งเป็นแรงงานสำคัญในภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้หลักสูตรมีความทันสมัยและสอดคล้องกับแผนพัฒนามหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและมีทักษะ เน้นการศึกษาวิจัยและพัฒนา เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ นวัตกรรมทางการบริหาร ปัจจุบันหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตดำเนินการจัดการเรียนการสอนครบรอบระยะเวลาของหลักสูตรแล้ว จึงได้จัดให้มีการปรับปรุงแก้ไขหลักสูตรเพื่อให้เกิดความทันสมัยและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ที่เปลี่ยนไป รวมทั้งให้หลักสูตรมีความสอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จึงมีการปรับปรุงเนื้อหารายวิชา ชื่อรายวิชาให้มีความทันสมัยและตรงกับความต้องการของผู้เรียน ผู้ใช้บัณฑิต กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับบัณฑิตศึกษา และการพัฒนาประเทศมากยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
เพื่อผลิตมหาบัณฑิตทางรัฐประศาสนศาสตร์ให้มีคุณลักษณะ ดังนี้
1.3.1 มีความรู้ความสามารถทางด้านการบริหารที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ ตลอดจนสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
1.2 สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์และประยุกต์ใช้ความรู้ทางรัฐประศาสนศาสตร์ ในการวิเคราะห์สถานการณ์หรือสภาพปัญหาที่มีความซับซ้อนได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนนำทักษะทางการวิจัยมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาที่มีความเป็นพลวัตและมีความสลับซับซ้อนได้ อันนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมทางรัฐประศาสนศาสตร์ที่เกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานและประเทศชาติ
1.3 มีคุณธรรม จริยธรรม และภาวะผู้นำในการปฏิบัติงานและสามารถแสดงความเห็นเชิงวิพากษ์บนฐานแนวคิดและทฤษฎีทางรัฐประศาสนศาสตร์ ตระหนักถึงการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลและการพัฒนาที่ยั่งยืน
1.4 มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสื่อสารได้อย่างประสิทธิภาพ เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งมีความรู้ความสามารถใช้เทคนิคการวิจัยมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ปรากฏการณ์ทางรัฐประศาสนศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ